การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เทคโนโลยีใหม่ๆ ขึ้นมาโดยใช้สติปัญญาความรู้ความสามารถ ถือว่าเป็นทรัพย์สินทางปัญญา แต่อาจจะโดนคนอื่นก๊อปปี้เอาไปขาย ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันผลงาน เราจึงควรมีการจดลิขสิทธิ์ แต่จะมีใครบ้างที่จะเข้าใจกฎหมายลิขสิทธิ์ และขั้นตอนการจดลิขสิทธิ์
แพรไหม รักเรียน นักเรียนชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัย A ถือสัญชาติไทย อาศัยอยู่แถวสีลม กรุงเทพฯแพรไหม กำลังพัฒนาซอฟต์แวร์โปรแกรม Mega Clever Photoซึ่งเป็นโปรแกรมตกแต่งภาพ นำเสนอเป็นโปรเจคนักศึกษา โดยมีอาจารย์คอยให้คำปรึกษา ในที่สุดแพรไหมสามารถสอบผ่านและเรียนจบ อาจารย์เห็นว่าโปรแกรมที่แพรไหมพัฒนาขึ้นเป็นโปรแกรมที่ดี เลยแนะนำให้แพรไหมส่งเข้าประกวดในงาน Software แห่งชาติ แต่อาจารย์ให้แพรไหมกำหนดข้อตกลงในการใช้ซอฟต์แวร์ หรือ Software License Agreement โดยให้ใส่ไว้ที่หน้าแรกของการติดตั้งโปรแกรม เพื่อเป็นการอธิบายข้อตกลงในการใช้งานโปรแกรม Mega Clever Photo และเพื่อป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์อีกด้วย โดยให้แพรไหมส่งเข้าประกวดในนามมหาวิทยาลัย ซึ่งทางมหาวิทยาลัยจะออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทางและค่าที่พัก ปรากฏว่าโปรแกรม Mega Clever Photo ของแพรไหมได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวด
สำหรับสถานการณ์จำลองนี้ แพรไหม ถือว่าเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์โปรแกรม Mega Clever Photo เพราะในพระราชบัญญัติ ลิขสิทธิ์ พุทธศักราช 2537 มาตรา 8 ได้กล่าวไว้ว่า ให้ผู้สร้างสรรค์เป็นผู้มีลิขสิทธิ์ในงานที่ตนได้สร้างสรรค์ขึ้น ซึ่งโปรแกรม Mega Clever Photo อยู่ในกรณีที่ยังไม่ได้มีการโฆษณา และ แพรไหมเองก็ถือสัญชาติไทย อาศัยอยู่ในประเทศไทย จึงทำให้แพรไหมเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ Mega Clever Photo โดยอัตโนมัติอยู่แล้ว แต่ถ้าจะให้ดีแพรไหมกควรไปจดแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์ เพื่อเป็นการป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งถ้าหากมีการนำเอางานอันมีลิขสิทธิ์ไปใช้ในเชิงพาณิชย์ก็จะสามารถใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยวิธีการจดแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์นั้นเป็นเรื่องที่ง่ายมาก เพียงแค่ท่านเข้าไปที่ www.sipa.or.th แล้วคลิกที่ดาวน์โหลด จากนั้นคลิกที่คำข้อแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์ เมื่อได้คำขอแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์มาแล้ว ก็ให้พิมพ์ออกมาจำนวน 2 ชุด แล้วกรอกรายละเอียดดังนี้
ในช่องประเภทงานอันมีลิขสิทธ์ ให้ระบุว่าเป็นวรรณกรรม เนื่องจากโปรแกรมคอมพิวเตอร์ถือเป็นงานวรรณกรรมอย่างหนึ่ง
สำหรับแบบแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับการสร้างสรรค์ผลงานโดยย่อ ให้ท่านใส่แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานขึ้นมา จากนั้นให้เจ้าของลิขสิทธิ์หรือตัวแทน ลงชื่อ พร้อมวัน ที่ที่ยื่นเอกสาร
ในส่วนของหนังสือรับรองความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ ให้ระบุชื่อเจ้าของลิขสิทธิ์, ที่อยู่, ประเภทของงานลิขสิทธิ์ ชื่อผลงาน และระบุวันที่ยื่นคำขอแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์ โดยเฉพาะในช่องของชื่อผลงานนั้น จะต้องต่างกับช่องหมายเลข 6 ในใบคำขอแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์ แล้วให้เจ้าของลิขสิทธิ์ลงนาม และวันที่
เมื่อท่านกรอกรายละเอียดครบทั้ง 2 ชุดแล้ว ท่านจะต้องจัดเตรียมเอกสารที่ใช้ประกอบการจดแจ้งลิขสิทธิ์นี้
1. คำข้อแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์ จำนวน 2 ฉบับ
2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของลิขสิทธิ์
3. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของตัวแทน
4. หนังสือรับรองความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์
5. หนังสือมอบอำนาจ พร้อมติดอากรแสตมป์ 30 บาท
6. ผลงาน ซึ่งก็คือ ซีดีรอมที่บรรจุ Source Code 5 หน้าแรกและ 5 หน้าหลัง
เมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว ให้ไปยื่นเอกสารทั้งหมดที่ สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)