การแจ้งลิขสิทธิ์ซอฟแวร์ กรณีนายจ้าง

การแจ้งลิขสิทธิ์ซอฟแวร์ กรณีนายจ้าง

การแจ้งลิขสิทธิ์ซอฟแวร์ กรณีนายจ้าง

ลิขสิทธิ์เป็นเรื่องที่หลายคนมักมองข้าม และไม่ค่อยให้ความสำคัญ โดยมักจะเข้าใจผิดอยู่เสมอ อย่างเรื่องง่ายๆ เช่น งานสร้างสรรค์ที่ผลิตขึ้นมานั้น ใครเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ หรือวิธีการจดลิขสิทธิ์ต้องทำอย่างไร ท่านทราบกันหรือไม่

สถานการณ์จำลอง

บริษัท มาฉลอง คอมพิวเตอร์ จำกัด ดำเนินธุรกิจมากว่า 20 ปี โดยมีกรรมการบริษัททั้งหมด 3 ท่าน ซึ่งนายมานะ ฉลองการณ์ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามแต่เพียงผู้เดียว ต่อมา บริษัทฯ ได้รับนายอภิชาติเข้ามาทำงานในตำแหน่งโปรแกรมเมอร์ และให้นายอภิชาติเซนสัญญาเป็นพนักงานของบริษัท มาฉลอง คอมพิวเตอร์ จำกัด เมื่อนายอภิชาติมาทำงานก็ได้รับมอบหมายงานให้เขียนโปรแกรมที่มีชื่อว่า Easy ERP

วันเวลาผ่านไป อภิชาติก็ตั้งใจทำงานเขียนโปรแกรม Easy ERP จนสำเร็จ แต่…นายอภิชาติเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า ยังไม่ได้ทำ Software license agreement เพื่อเป็นการอธิบายข้อตกลงในการใช้งานโปรแกรม และเพื่อป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ตามที่หัวหน้าอนันต์ได้สั่งไว้ นายอภิชาติจึงรีบทำงานต่อให้เสร็จ โดยในขณะที่นายอภิชาติต้องนั่งทำ Software license agreement อยู่นั้น นายอภิชาติก็เกิดสงสัยขึ้นมาว่า จะต้องระบุให้ใครเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์โปรแกรมนี้

จากสถานการณ์ข้างต้นนี้ บริษัท มาฉลอง คอมพิวเตอร์ จำกัด เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ เพราะตามกฎหมายลิขสิทธิ์บอกว่า ลิขสิทธิ์ของงานย่อมเป็นของคนที่สร้างสรรค์งานนั้นขึ้นมา เว้นแต่ว่าจะมีการทำข้อตกลงไว้เป็นอย่างอื่น ซึ่งในเหตุการณ์นี้ ท่านจะเห็นว่าก่อนที่บริษัทฯ จะให้นายอภิชาติเข้ามาทำงานนั้น บริษัทฯได้ให้นายอภิชาติเซ็นข้อตกลงในสัญญาจ้างงาน ซึ่งในนั้นได้ระบุอย่างชัดเจนว่า ลิขสิทธิ์ผลงานทั้งหมดเป็นของนายจ้าง ซึ่งในที่นี้คือ บริษัท มาฉลอง คอมพิวเตอร์ จำกัดนั่นเอง ถึงแม้ว่าเจ้าของลิขสิทธิ์จะได้รับความคุ้มครองทันทีโดยไม่ต้องจดทะเบียน แต่ทว่าหากเกิดปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ขึ้นมา ผู้ที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ก็จะต้องยุ่งยาก หาหลักฐานมายืนยัน แต่ถ้าหากจดแจ้งลิขสิทธิ์กันแต่แรก ปัญหานี้ก็จะไม่เกิดขึ้น ซึ่งวิธีการจดแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์นั้นง่ายมาก เพียงแค่เข้าไปที่ www.sipa.or.th แล้วคลิกที่ดาวน์โหลด จากนั้นคลิกที่คำขอแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์ โดยเมื่อได้คำขอแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์มาแล้ว ก็ให้พิมพ์ออกมาจำนวน 2 ชุด แล้วกรอกรายละเอียดดังนี้

ในช่องประเภทงานอันมีลิขสิทธิ์ ให้ระบุว่าเป็นวรรณกรรม เนื่องจากโปรแกรมคอมพิวเตอร์ถือเป็นงานวรรณกรรมอย่างหนึ่ง

  • ช่องหมายเลข 1 ให้ระบุชื่อเจ้าของลิขสิทธิ์ ในตัวอย่างข้างต้นนี้ บริษัทฯ เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ ดังนั้นให้ระบุเป็นชื่อบริษัทฯ สัญชาติ หมายเลขนิติบุคคล และที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ของบริษัท และหากมีเบอร์โทรสารก็ให้ใส่เบอร์โทรสารด้วย
  • ช่องหมายเลข 2 ถ้าเจ้าของลิขสิทธิ์มายื่นจดเองไม่ได้ ต้องมอบอำนาจให้ตัวแทนมาดำเนินการแทน
  • ช่องหมายเลข 3 ให้ระบุสถานที่และเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อเจ้าของสิทธิ์หรือตัวแทน เพื่อสะดวกในการติดตามเอกสารและผลงาน กรณีเอกสารและผลงานไม่ครบ
  • ช่องหมายเลข 4 ให้ใส่ชื่อผู้สร้างสรรค์ซึ่งอาจจะเป็นตัวบุคคล หรือเป็นนิติบุคคลก็ได้ กรณีที่ผู้สร้างสรรค์เสียชีวิตแล้วให้ระบุ วัน เดือน ปี ที่ผู้สร้างสรรค์เสียชีวิต แต่สำหรับตัวอย่างนี้ เป็นนิติบุคคล ดังนั้นให้ระบุชื่อ สัญชาติ หมายเลขนิติบุคคล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ เบอร์โทรสาร และวันเดือนปีที่จดทะเบียนนิติบุคคลของบริษัท มาฉลอง คอมพิวเตอร์ จำกัด
  • ช่องหมายเลข 5 หากมีผู้สร้างสรรค์มากกว่า 1 คน ให้ระบุเพิ่มในช่องนี้ แต่ในกรณีนี้มีเพียงคนเดียว จึงไม่ต้องกรอก
  • ช่องหมายเลข 6 ในช่องนี้ให้ระบุชื่อผลงาน ซึ่งท่านควรตรวจสอบคำสะกดให้ถูกต้อง เพื่อประโยชน์ในการระบุในหนังสือรับรองการแจ้งข้อมูล
  • ช่องหมายเลข 7 ให้ระบุประเภทของงานและลักษณะงานที่จะยื่นแจ้งข้อมูลพร้อมระบุผลงานที่ยื่นประกอบคำขอ ซึ่งในที่นี้เป็นวรรณกรรม ลักษณะงาน โปรแกรมคอมพิวเตอร์ พร้อมระบุผลงานที่ยื่นประกอบ อย่างในตัวอย่างนี้ จะเป็นซีดีรอมที่บรรจุ Source Code (5 หน้าแรกและ 5 หน้าหลัง)
  • ช่องหมายเลข 8 ให้ระบุว่าเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ได้อย่างไร ในตัวอย่างนี้ ต้องระบุว่า “เป็นนายจ้างซึ่งมีหนังสือตกลงกับลูกจ้างว่า ให้นายจ้างเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์”
  • ช่องหมายเลข 9 ให้ระบุว่าเป็นผู้สร้างสรรค์เองทั้งหมดหรือไม่ หรืออาจเป็นผู้รวบรวมผลงานดัดแปลงงานก็ให้ระบุด้วย ซึ่งในตัวอย่างนี้ อภิชาติเป็นผู้สร้างสรรค์ขึ้นมาเองทั้งหมด
  • ช่องหมายเลข 10 ให้ระบุว่าสร้างสรรค์ผลงานขึ้นที่ประเทศใด หากสร้างสรรค์ที่ประเทศสิงคโปร์ ก็ให้ใส่ประเทศสิงคโปร์ แต่ตัวอย่างนี้ สร้างสรรค์กันที่ประเทศไทย
  • ช่องหมายเลข 11 ระบุวันเดือนปีที่สร้างสรรค์ผลงานนี้ขึ้นมา
  • ช่องหมายเลข 12 ให้ระบุ วัน เดือน ปีและประเทศที่มีการโฆษณาเป็นครั้งแรก ในกรณีนี้ได้มีการโฆษณาเผยแพร่โปรแกรมผ่าน Facebook เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2556 ที่ประเทศไทยก็ให้ระบุ วัน เดือน ปีและประเทศที่มีการโฆษณา
  • ช่องหมายเลข 13 ให้ระบุว่าเคยแจ้งหรือจดทะเบียนลิขสิทธิ์ในต่างประเทศหรือไม่ หากไม่เคยให้ติ๊กที่ช่อง ไม่เคยแจ้งหรือจดทะเบียน
  • ช่องหมายเลข 14 ให้ระบุว่าเคยอนุญาตให้คนอื่นใช้ลิขสิทธิ์หรือโอนลิขสิทธิ์มาก่อนหรือไม่ ในกรณีที่ไม่เคยให้ติ๊กที่ช่อง ไม่เคยอนุญาตให้ใช้ลิขสิทธิ์/โอนลิขสิทธิ์
  • ช่องหมายเลข 15 ให้ระบุว่าอนุญาตให้คนอื่นตรวจดูเอกสารในแฟ้มคำขอแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์หรือผลงานหรือไม่ ถ้าหากไม่ต้องการให้ติ๊กที่ช่อง ข้าพเจ้าไม่อนุญาตให้บุคคลใดตรวจดูเอกสารในแฟ้มคำขอฯ และผลงานของข้าพเจ้า เมื่อกรอกรายละเอียดครบถ้วนแล้วให้เจ้าของลิขสิทธิ์หรือตัวแทนลงชื่อ และวันที่ที่ยื่นเอกสาร

สำหรับแบบแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับการสร้างสรรค์ผลงานโดยย่อ ให้ท่านระบุวิธีการและขั้นตอนในการสร้างสรรค์ผลงาน หรือแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานโดยย่อ แล้วให้เจ้าของลิขสิทธิ์หรือตัวแทนเป็นผู้ลงชื่อ

ในส่วนของหนังสือรับรองความเป็นเจ้าของงานลิขสิทธิ์ ให้ระบุชื่อเจ้าของลิขสิทธิ์ ที่อยู่ ทะเบียนนิติบุคคล ประเภทของงานลิขสิทธิ์ ชื่อผลงาน และระบุวันที่ยื่นคำขอแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์ โดยเฉพาะในช่องชื่อผลงานนั้น จะต้องตรงกับช่องหมายเลข 6 ในใบ คำขอแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์แล้วให้เจ้าของลิขสิทธิ์ลงนามเท่านั้น


เมื่อกรอกรายละเอียดครบทั้ง 2 ชุดแล้ว จะต้องเตรียมเอกสารที่ใช้ประกอบการจดแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์ดังนี้ 
   1. คำขอแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์ จำนวน 2ฉบับ 
   2. หนังสือรับรองความเป็นเจ้าของงานลิขสิทธิ์ 
   3. ผลงาน ซึ่งก็คือ ซีดีรอมที่บรรจุ Source Code 5 หน้าแรกและ 5 หน้าหลัง 
   4. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของลิขสิทธิ์ซึ่งก็คือสมคิดและกล้าหาญ พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง 
เมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว ให้นำเอกสารทั้งหมดไปยื่นที่ ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)